พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้กำกับดูแลสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน (องค์การมหาชน) หรือ บจธ. ได้สั่งการให้ บจธ. เร่งดำเนินการความช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน และได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 โดยเปิดช่องทางในการให้ประชาชนทั่วประเทศได้มีที่ดินทำกินตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อการดำรงชีวิตได้อย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2563 พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน ประธานกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน นายกุลพัชร ภูมิใจอวด รองผู้อำนวยการ ปฏิบัติหน้าที่แทน ผู้อำนวยการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ บจธ. ได้เดินทางลงพื้นที่ ติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานช่วยเหลือประชาชนและเกษตรกรที่ไม่มีที่ดินทำกิน และได้รับผลกระทบจากพิษโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย จำนวน 3 พื้นที่ ที่ บจธ. ได้สนับสนุนและให้การช่วยเหลือตามโครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร ได้แก่
- วิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย
- วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์เชียงรายตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย
- วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน โยนกนคร (บ้านสันต้นเปา) ตำบลสันต้นเปา อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย
ในพื้นที่ วิสาหกิจชุมชนเชียงรายอุ่นไอรักษ์ ตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย มีสมาชิกจำนวน 200 ราย พื้นที่ 68 ไร่เศษ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ บจธ. ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน หลังจากที่ชุมชนได้ร่วมกันดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาแปลงที่ดินของตนเอง ปลูกไม้ยืนต้นและผักอินทรีย์ปลอดสารพิษ เช่น ผักเชียงดา ฟักทอง ถั่วฝักยาว ถั่วลิสง ผักสลัด ฯลฯ ไว้บริโภคได้ในแต่ละครัวเรือน เพาะเลี้ยงจิ้งหรีดไว้ส่งขายเป็นรายได้เสริม โดย พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติฯ ประธานกรรมการ บจธ. ได้ให้แนวทางในการพัฒนาพื้นที่และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานตามแนวทางเกษตรทฤษฎีใหม่ โคกหนองนา และนำทีมลงตรวจพื้นที่แต่ละแปลง พร้อมให้กำลังใจแก่สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจฯ กล่าวว่า “ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านผ่านพ้นวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ไปด้วยกัน และขอให้ทุนคนตั้งใจทำเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเกษตรทฤษฎีใหม่ ตามหลักของศาสตร์พระราชา เพื่อความเป็นอยู่ที่มั่นคง และยั่งยืน”
พื้นที่ วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์เชียงราย ตำบลดอยฮาง อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย Phase 1 จำนวน 28 ราย พื้นที่ประมาณ 38 ไร่เศษ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ บจธ. ได้ลงพื้นที่ติดตามผลการดำเนินงาน วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชา วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์เชียงราย โดยมีพระอาจารย์วิบูลย์ ธมเตโช เจ้าอาวาสวัดพุทธอุทยาน (ดอยอินทรีย์) ที่ปรึกษาให้แก่วิสาหกิจชุมชนศาสตร์พระราชาฯ และ
นายขิณรัตน์ สินสิทธิพล ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ พร้อมทั้งพี่น้องเกษตรกรกลุ่มสมาชิกฯ ให้การต้อนรับ ความคืบหน้าในปัจจุบัน พระอาจารย์วิบูลย์ฯ ได้นำพาคณะเยี่ยมชมพื้นที่ที่ชุมชนได้ร่วมกันพัฒนาพื้นที่รอบบริเวณแปลงที่ดินที่ได้รับการจัดสรรให้ตรงตามหลักของเกษตรทฤษฎีใหม่ และศาสตร์พระราชา โดยแต่ละแปลงได้รับโจทย์ว่าจะต้องปลูกพืชผักสวนครัวที่ไม่ซ้ำกันเพื่ออย่างน้อยจะได้แลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันได้ภายในชุมชน และปลูกป่าตามทฤษฎีบันได 9 ขั้น ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางกลุ่มสมาชิกฯ ได้แบ่งไว้เป็นบ่อน้ำส่วนกลางที่สามารถใช้น้ำได้ตลอดทั้งปี ร้านค้าเกษตรชุมชน และลานธรรมไว้สำหรับร่วมกันสวดมนต์ทุกวันพระเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชุมชน และในวันดังกล่าววิสาหกิจชุมชนและคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ บจธ. ได้ร่วมใจกันหล่อพระพุทธรูป และปลูกต้นไม้มงคลบริเวณลานธรรม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี
วิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน โยนกนคร (บ้านสันต้นเปา) ตำบลสันต้นเปา อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย จำนวน 100 ราย พื้นที่จำนวน 420 ไร่ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ บจธ. ได้ลงพื้นที่เข้าร่วมการประชุมชี้แจงแนวทางและหลักเกณฑ์การเข้าร่วมโครงการต้นแบบการบริหารจัดการที่ดินแบบครบวงจร ของ บจธ. แก่กลุ่มสมาชิกวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรรมยั่งยืน โยนกนคร (บ้านสันต้นเปา) ที่ยืนเรื่องขอความช่วยเหลือมายัง บจธ. โดย พล.ต.อ. เฉลิมเกียรติฯ ได้กล่าวว่า “จากการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งพี่น้องเกษตรกรได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก บางคนตกงาน บริษัทร้านค้าปิด รัฐบาลจึงมีนโยบายที่ต้องการให้ประชาชนมีที่ทำกิน โดยยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สามารถพึ่งพาตนเองได้บนที่ดินของตัวเอง โดยจะมี บจธ. เข้าไปช่วยสนับสนุนจัดซื้อที่ดินให้ท่านได้เช่า ถ้าเข้มแข็งก็เช่าซื้อ โดยเมื่อได้รับการจัดสรรที่ดินแล้ว บจธ. จะเข้าไปช่วยสนับสนุนการฝึกอบรมศาสตร์พระราชาให้กับท่าน อีกทั้งยังมีทีมคณะอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยแม่โจ้มาช่วยอีกทางหนึ่ง จึงเป็นโอกาสที่ดีของชุมชนนี้ได้จะได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนเพื่อช่วยให้พี่น้องได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น จึงขอให้ทุกคนช่วยกันรักษาที่ดินผืนนี้ให้ตกไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานได้ใช้ประโยชน์ต่อไป”